Snowcap Compute: สตาร์ตอัปชิป AI ซุปเปอร์คอนดักเตอร์ ปิดระดมทุน 23 ล้านดอลลาร์ เปลี่ยนโฉมอนาคตพลังงาน AI

เมื่อพลัง AI ต้องการพลังงานมากกว่าที่โลกมี

ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ความต้องการในการประมวลผลข้อมูลสูงมากจนเริ่มกระทบต่อระบบพลังงานโลก สตาร์ตอัปจากสหรัฐฯ นามว่า Snowcap Compute ได้กลายเป็นความหวังใหม่ด้วยแนวคิด “ซุปเปอร์คอนดักเตอร์” (Superconducting) ที่อาจปฏิวัติการประมวลผล AI อย่างสิ้นเชิง

เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2025 Snowcap ได้ประกาศปิดรอบการระดมทุน Series Seed มูลค่า 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพัฒนาชิป AI แบบใช้เทคโนโลยีซุปเปอร์คอนดักเตอร์ ซึ่งให้ประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงกว่า GPU ทั่วไปถึง 25 เท่า


เทคโนโลยีเบื้องหลัง: ซุปเปอร์คอนดักเตอร์คืออะไร?

เทคโนโลยีซุปเปอร์คอนดักเตอร์ หมายถึง วัสดุที่สามารถนำไฟฟ้าโดยไม่มีความต้านทาน เมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำมากระดับเคลวิน วัสดุที่ Snowcap ใช้คือ Niobium Titanium Nitride ที่ได้รับการพัฒนาเฉพาะสำหรับงานด้าน AI

ข้อได้เปรียบของชิปแบบ Superconducting:

  • Zero Resistance: กระแสไฟฟ้าไหลโดยไม่สูญเสียพลังงาน
  • Ultra-Low Power: ใช้พลังงานน้อยมากในการทำงานระดับ petaflops
  • Cooler System: ใช้ระบบ cryogenic cooling ที่มีประสิทธิภาพสูง

แม้จะต้องใช้ระบบหล่อเย็นพิเศษ แต่ Snowcap ระบุว่าประสิทธิภาพรวมยังคงประหยัดพลังงานกว่าระบบดั้งเดิมหลายสิบเท่า


ทีมผู้ก่อตั้งและนักลงทุน: ความมั่นคงที่น่าเชื่อถือ

ทีม Snowcap มาจากหลากหลายองค์กรระดับโลก เช่น:

  • อดีตวิศวกร Nvidia และ Google
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธจาก Northrop Grumman
  • นักฟิสิกส์จาก MIT และ Imec

การระดมทุนครั้งนี้นำโดย:

  • Playground Global (กองทุนของ Andy Rubin)
  • Cambium Capital
  • Vsquared Ventures

และได้รับการสนับสนุนด้านกลยุทธ์จาก Pat Gelsinger อดีต CEO ของ Intel ซึ่งเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาบอร์ด


ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ต่อโลก AI

1. ลดต้นทุนพลังงานของ Data Center

AI Training ในระดับ LLM หรือ Simulation ใช้พลังงานมหาศาล ชิปของ Snowcap อาจช่วยลดต้นทุนค่าไฟได้ถึง 70–90%

2. รองรับความต้องการ AI ที่เติบโตแบบทวีคูณ

เมื่อความต้องการ GPU มีสูงแต่การผลิตยังไม่ทัน Superconducting chip อาจเป็นคำตอบในระยะกลาง

3. ความยั่งยืนเชิงสิ่งแวดล้อม

ลดการปล่อย CO2 จาก data center และลดความร้อนจากการใช้งาน GPU แบบเดิม


Timeline การพัฒนา

  • 2025: ปิดรอบทุนและเริ่มผลิต sample chip รุ่นแรกในแล็บ
  • 2026: สาธิตต้นแบบ AI Data Board เต็มระบบ
  • 2027: พร้อมขายเชิงพาณิชย์สำหรับ AI training และ inference cloud

สรุป: AI ประสิทธิภาพสูง ต้องมาพร้อมพลังงานที่ยั่งยืน

ในยุคที่ “AI Everywhere” กลายเป็นความจริง การคิดใหม่เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมชิปเป็นสิ่งจำเป็น Snowcap Compute คือผู้ท้าชิงที่น่าจับตามองในตลาด AI hardware ไม่ใช่เพราะแค่ประหยัดไฟ แต่เพราะวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนสมการของการประมวลผลไปตลอดกาล

“Snowcap อาจไม่ใช่แค่บริษัทชิปอีกแห่ง แต่คือสัญญาณแห่งการเริ่มต้นยุคใหม่ของการประมวลผลระดับโลก”