บทนำ: Apple เขย่าวงการเทคโนโลยีอีกครั้ง
ในงาน WWDC 2025 ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัวนวัตกรรมครั้งสำคัญที่จะพลิกโฉมการใช้งานอุปกรณ์ทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Mac, Apple Watch, Apple TV และ Vision Pro ด้วยแนวคิดที่เรียกว่า “Liquid Glass” และการเปิดตัวชุดปัญญาประดิษฐ์แบบองค์รวมภายใต้ชื่อ “Apple Intelligence” ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งอุตสาหกรรมไอที
Liquid Glass: การออกแบบ UI ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ
จาก Flat Design สู่ Dynamic Transparency
ตั้งแต่ iOS 7 เป็นต้นมา Apple ได้ยึดแนวทาง Flat Design ซึ่งเน้นความเรียบง่าย แต่ในปี 2025 นี้ Apple ได้พลิกเกมอีกครั้งด้วย Liquid Glass ซึ่งเปรียบเสมือนการนำกระจกใสที่มีชีวิตมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของอินเทอร์เฟซ
คุณสมบัติเด่น
- Dynamic Layers: การแสดงผลแบบเลเยอร์ที่มีความลึกและความโปร่งใสเคลื่อนไหวตามพฤติกรรมของผู้ใช้
- Reactive Lighting: พื้นหลังและองค์ประกอบ UI ปรับเปลี่ยนแสงและเงาให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม
- New Iconography: ไอคอนชุดใหม่ที่สะท้อนวัสดุและพื้นผิวสมจริง
Liquid Glass ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังรวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่น ไม่ว่าจะใช้บนหน้าจอขนาดเล็กของ Apple Watch หรือจอภาพ Retina 6K ของ Mac Studio

Apple Intelligence: ยุคใหม่ของ AI ที่ฝังแน่นในทุกระบบ
ไม่ใช่แค่ Siri แต่คือ AI ที่รู้ใจคุณ
Apple Intelligence ไม่ใช่ผู้ช่วยส่วนตัวธรรมดา แต่เป็นชุดความสามารถ AI ที่ฝังแน่นอยู่ในทุกแอป ทุกบริการ และทุกระบบปฏิบัติการของ Apple
ฟีเจอร์ไฮไลต์
- Smart Reply 2.0: ตอบข้อความอัตโนมัติด้วยภาษาธรรมชาติ พร้อมตรวจจับอารมณ์และบริบท
- Visual Intelligence: วิเคราะห์ภาพถ่ายแบบ real-time เช่น แนะนำการแต่งภาพ, ตรวจวัตถุ, OCR
- AI Battery Optimization: จัดการพลังงานด้วยการเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้
- Voice Personalization: ปรับแต่งเสียงพูดของผู้ใช้ในแอปติดต่อสื่อสารให้เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
Apple Intelligence ยังเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยข้อมูลจะถูกประมวลผลบนอุปกรณ์ (on-device processing) เป็นหลัก สอดคล้องกับแนวทางของ Apple ที่ให้ความสำคัญกับ privacy มาโดยตลอด
อัปเดตระบบปฏิบัติการหลักทุกตัว

iOS 26
- รองรับ Liquid Glass เต็มรูปแบบ
- Apple Intelligence ฝังใน Messages, Camera, Safari
- เพิ่มฟีเจอร์ QuickFlow สำหรับ workflow ส่วนตัว
iPadOS 26
- รองรับการใช้งาน multitasking ระดับโปร เช่น multi-window แบบอิสระ
- รองรับ keyboard shortcuts แบบ macOS
- UI ที่เหมาะกับศิลปินและนักออกแบบ
macOS Tahoe
- ปรับปรุง Spotlight และ Control Center ด้วย AI
- Time Machine 2.0 สำรองข้อมูลแบบ predictive
- รองรับ universal app ที่เขียนครั้งเดียวรันได้ทุกแพลตฟอร์ม
watchOS 12
- Smart Workout Planner
- Live Translate ใน real-time
- Liquid Glass UI แบบย่อส่วนในจอ Apple Watch
tvOS 26
- รองรับการสั่งงานด้วยเสียงเต็มรูปแบบด้วย Apple Intelligence
- ปรับ UI ให้เข้ากับ OLED และ micro-LED
visionOS (Apple Vision Pro)
- ระบบ widget รอบตัวแบบ 3D
- สนับสนุน PlayStation VR controller อย่างเป็นทางการ
- สร้างพื้นที่ทำงาน (work zones) แบบ spatial computing
การเชื่อมต่อ Ecosystem แบบไร้รอยต่อ
Apple ได้เน้นให้ปี 2025 เป็นปีของการบูรณาการอย่างแท้จริง โดย iPhone, iPad, Mac, Watch และ Vision Pro สามารถแชร์ข้อมูล, แชร์ workflow, และสลับการทำงานข้ามอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหล
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเริ่มต้นงานบน iPad แล้วใช้ Vision Pro ทำการ present แบบ immersive และจบงานบน MacBook ได้ทันที โดยไม่มีขั้นตอนยุ่งยากใด ๆ
Apple Games App และ CarPlay Ultra
Apple เปิดตัวแอปใหม่ “Games” ที่รวบรวมเกมจาก App Store แบบ curated และสามารถเล่นได้บนทุกอุปกรณ์พร้อม cross-save
นอกจากนี้ CarPlay Ultra ยังแสดงข้อมูลแบบ full-dash immersive ซึ่งรองรับการควบคุมทั้งจอภาพ, คำสั่งเสียง และ gesture พร้อม AI navigation
Timeline และแผนปล่อยใช้งาน
- 10 มิถุนายน 2025: เปิดตัว Developer Beta
- กรกฎาคม 2025: ปล่อย Public Beta สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
- กันยายน-ตุลาคม 2025: ปล่อยเวอร์ชันเต็มพร้อม iPhone 17, iPad Pro M4, และ MacBook M4
วิเคราะห์: Apple กับยุคทองของเทคโนโลยีแบบบูรณาการ
Apple กำลังสร้างสิ่งที่เรียกว่า “computing without friction” ซึ่งเป็นโลกที่คุณไม่รู้สึกว่ากำลังใช้เทคโนโลยี แต่รู้สึกว่าเทคโนโลยีกำลังอยู่ข้างคุณเสมอแบบไร้รอยต่อ
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- Google และ Samsung ต้องเร่งพัฒนา AI UI ของตนให้ทันกับ Liquid Glass และ Apple Intelligence
- นักพัฒนา iOS จะมีเครื่องมือใหม่ในการสร้างแอปที่ซับซ้อนขึ้น
- ผู้ใช้งานทั่วไปจะเริ่มมองว่า AI เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่แค่ผู้ช่วย

สรุป
Liquid Glass และ Apple Intelligence คือสองสิ่งที่จับมือกันผลักดันโลกแห่งนวัตกรรมในปี 2025 อย่างแท้จริง ด้วยการออกแบบที่สวยงาม, ระบบที่ชาญฉลาด, และ ecosystem ที่ครบถ้วน Apple ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเหตุใดพวกเขายังคงเป็นผู้นำของวงการเทคโนโลยี
เว็บไซต์ TheGuideIT.com ยินดีต้อนรับข่าวใหญ่นี้เป็นข่าวแรกของเว็บไซต์ เพื่อเปิดประตูสู่โลกแห่งนวัตกรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุด